ร่างพระราชบัญญัติ สภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ พ.ศ.2567
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ พ.ศ.2567”
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 บรรดาบทกฎหมาย กฎ และข้อบังคับอื่นในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัตินี้หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้
“สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ” หมายความว่า ผู้ที่ขับรถแท็กซี่และรถตู้โดยสารที่สภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติได้รับจดทะเบียนและออกใบอนุญาตให้เป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ และให้หมายความรวมถึงยานพาหนะหรืออากาศยานไร้คนขับที่รับจ้างนำผู้โดยสารจากสถานที่หนึ่งไปอีกสถานที่หนึ่ง
“นายกพิเศษ” หมายความว่า นายกพิเศษแห่งสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
“นายก” หมายความว่า นายกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
“กรรมการ” หมายความว่า กรรมการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
“สมาชิก” หมายความว่า สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
“ข้อบังคับ” หมายความว่า ข้อบังคับสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
“ใบอนุญาต” หมายความว่าใบอนุญาตให้เป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
“รัฐมนตรี” หมายความว่ารัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
“ผู้รับบริการเรียกรถ” หมายความว่าบุคคลหรือนิติบุคคลใดเป็นผู้จัดหา ผู้ว่าจ้าง เป็นคนกลางจัดทำโปรแกรมประยุกต์รับคำขอบริการแล้วนำคำขอเหล่านั้นมาเรียกสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติไปไช้บริการ
“อู่รถ” หมายความว่า บุคคล นิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัท หรือคณะบุคคลจำกัด บริษัทมหาชน จำกัด ที่นำรถแท็กซี่ หรือรถตู้โดยสารไปให้สมาชิกสภาวิชาชีพผู้ขับขี่รถแท็กซี่แห่งชาติ เช่า หรือเช่าซื้อ
“เครื่องแบบ” หมายความว่า เครื่องแบบที่ประดับเครื่องหมาย คณะกรรมการ สภาวิชาชีพผู้ขับรถแท็กซี่แห่งชาติ พนักงานสภาวิชาชีพผู้ขับรถแท็กซี่แห่งชาติ และสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ สวมใส่
“มูลนิธิ” หมายความว่า มูลนิธิคุ้มครองผู้ใช้บริการรถยนต์สาธารณะ
“ผู้มีอิทธิพล” หมายความว่า ผู้มีอำนาจในด้านที่ไม่เป็นทางการและเป็นผู้ที่มีความสามารถให้สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ปฏิบัติตาม โดยการโน้มน้าวชักจูง หรือใช้วิธีการอื่นใดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และ/หรือไม่ขออนุญาตสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติแล้วชักจูงชี้นำสมาชิกไปใช้งานเพื่อผลประโยชน์ให้ตัวเอง
“ผู้ยากไร้” หมายความว่า ผู้ที่ยากจน ซึ่งมีสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์การสงเคราะห์ของสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
2
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้และกำหนดกิจการอื่นเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้
หมวด 1
สภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
มาตรา 6 ให้มีสภาขึ้นสภาหนึ่งเรียกว่า “สภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ”ประกอบด้วยคณะกรรมการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ และสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ มีวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้
ให้ สภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ เป็นนิติบุคคล
มาตรา 7 สภาวิชาชีพผู้ขับขี่รถแท็กซี่แห่งชาติมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
(1) ส่งเสริมการศึกษาและการประกอบวิชาชีพผู้ขับขี่รถแท็กซี่และรถตู้โดยสาร
(2) ควบคุมจริยธรรมของผู้ขับขี่รถแท็กซี่และรถตู้โดยสาร
(3) ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
(4) ส่งเสริมและจัดสวัสดิการให้แก่สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
(5) ส่งเสริม ช่วยเหลือ แนะนำ และให้บริการรถแท็กซี่และรถตู้โดยสารแก่ประชาชนในเรื่องที่เกี่ยวกับการเดินทางจากสถานที่หนึ่งไปอีกสถานที่หนึ่ง
(6) ส่งเสริมและพัฒนาระบบติดต่อสื่อสารเพื่อสนับสนุนการให้บริการผู้โดยสาร ให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัยอันก่อให้ เกิดประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกแก่ทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ
มาตรา 8 สภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) จดทะเบียนและออกใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้
(2) ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ และตามอำนาจหน้าที่ซึ่งกำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 9 สภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติอาจมีรายได้ดังต่อไปนี้
(1) ค่าจดทะเบียน ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมตามพระราชบัญญัตินี้
(2) เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน
(3) รายได้จากทรัพย์สิน จากการจัดทำโปรแกรมประยุกต์รับเรียกรถแท็กซี่ รถตู้โดยสาร และ/หรือกิจการอื่น
(4) ทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์
มาตรา 10 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมดำรงตำแหน่งนายกพิเศษแห่งสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ และมีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้
3
หมวด 2
สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
มาตรา 11 สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ได้แก่ผู้ให้บริการรถแท็กซี่และรถตู้โดยสารตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 12 สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ มีดังนี้
(1) แสดงความเห็นเป็นหนังสือเกี่ยวกับการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์หรืออำนาจหน้าที่ของสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ โดยส่งไปยังคณะกรรมการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ และในกรณีที่สมาชิกร่วมกันตั้งแต่หนึ่งร้อยคนขึ้นไป เสนอให้คณะกรรมการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติพิจารณาเรื่องใดที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์หรืออำนาจหน้าที่ของสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ คณะกรรมการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติต้องพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้เสนอทราบโดยมิชักช้า
(2) ซักถามเกี่ยวกับการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการหรือเกี่ยวกับการบริหารงานทั่วไปของสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ในการประชุมใหญ่ของสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
(3) เลือกหรือรับเลือกตั้งเป็นนายกหรือกรรมการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
(4) ผดุงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์ศรีแห่งวิชาชีพและปฏิบัติตนตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 13 สมาชิกภาพของสมาชิกย่อมสิ้นสุดลงเมื่อ
(1) ตาย
(2) ขาดจากการเป็นผู้ให้บริการรถแท็กซี่และรถตู้โดยสารตามมาตรา 44
หมวด 3
คณะกรรมการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
มาตรา 14 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ”ประกอบด้วยผู้แทนกระทรวงคมนาคมหนึ่งคน ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติหนึ่งคน ผู้แทนสภาทนายความหนึ่งคน และผู้แทนกรมการขนส่งทางบกหนึ่งคน เป็นกรรมการ และนายก หรือกรรมการอื่นอีกไม่เกินสามสิบสองคน ซึ่งสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติทั่วประเทศได้เลือกตั้งขึ้นโดยกรรมการดังกล่าวมาจากผู้ให้บริการแท็กซี่และรถตู้โดยสารที่ให้บริการ และ/หรือมีภูมิลำเนาอาศัยในภูมิภาคตามเทียบเคียงพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งกองบัญชาการตำรวจภาค 1- 9 ไม่น้อยกว่า 9 คน
มาตรา 15 ให้นายกแต่งตั้งกรรมการอื่นตามมาตรา 14 เป็นรองนายก เลขาธิการ นายทะเบียน เหรัญญิก สิทธิสวัสดิการ ประชาสัมพันธ์ และตำแหน่งอื่นตามความเหมาะสมด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการโดยให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดในข้อบังคับ
มาตรา 16 ให้นายกและกรรมการที่ได้รับเลือกตั้งมีวาระการดำรงตำแหน่งสี่ปี แต่จะดำรงตำแหน่งเกินกว่าสองวาระติดต่อกันมิได้
4
มาตรา 17 สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ที่ได้จดทะเบียนและรับใบอนุญาตก่อนวันเลือกตั้งนายก หรือกรรมการ ไม่น้อยกว่าสามสิบวันมีสิทธิเลือกตั้งนายกและหรือกรรมการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกหรือกรรมการจะต้องเป็นผู้ซึ่งได้จดทะเบียน และรับใบอนุญาตมาแล้วรวมกันไม่น้อยกว่าสิบปีก่อนวันเลือกตั้งนายกหรือกรรมการ
มาตรา 18 การเลือกตั้งนายกและกรรมการตามมาตรา 14 สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติต้องมาใช้สิทธิด้วยตนเองโดยการลงคะแนนลับของสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติให้บริการอยู่ ณ จังหวัดใด ให้ออกเสียงลงคะแนนที่จังหวัดนั้นหรือจะไปออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมใหญ่ก็ได้
หลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งนายกและกรรมการ ให้เป็นไปตามที่กำหนดในข้อบังคับ
มาตรา 19 ให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติมีอำนาจหน้าที่ควบคุมการเลือกตั้งนายกและกรรมการให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับ
มาตรา 20 เมื่อมีพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการ นายก หรือกรรมการคนใดคนหนึ่งกระทำผิดวัตถุประสงค์ของ สภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติหรือกระทำการอันเป็นการเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงแก่สภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ให้รัฐมนตรีมีอำนาจสั่งให้คณะกรรมการ นายกหรือกรรมการคนนั้นออกจากตำแหน่งได้
ในกรณีที่รัฐมนตรีจะมีคำสั่งตามวรรคหนึ่ง ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งผู้แทนกระทรวงคมนาคมหนึ่งคน ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติหนึ่งคน ผู้แทนจากมูลนิธิคุ้มครองผู้ใช้บริการรถยนต์สาธารณะหนึ่งคน และซึ่งเป็นทนายความหนึ่งคน กับ สมาชิกสภาวิชาชีพผู้ขับขี่รถแท็กซี่แห่งชาติอื่นอีกห้าคนเป็นคณะกรรมการสอบสวน คณะกรรมการสอบสวนต้องรีบทำการสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แล้วเสนอสำนวนการสอบสวนพร้อมทั้งความเห็นต่อรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาสั่งการ คำสั่งของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด
มาตรา 21 นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ นายกหรือกรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้งพ้นจากตำแหน่งเป็นการเฉพาะตัว เมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) ขาดคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกหรือกรรมการตามมาตรา 17 วรรคสอง
(4) รัฐมนตรีมีคำสั่งให้ออกจากตำแหน่งเป็นการเฉพาะตัวตามมาตรา 20
(5) ขาดจากการเป็น สมาชิกสภาวิชาชีพผู้ขับขี่รถแท็กซี่แห่งชาติ ตามมาตรา 44
(6) เป็นผู้มีกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
(7) ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลาย หรือ
(8) ต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
5
มาตรา 22 ในกรณีที่คณะกรรมการทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งและยังไม่มีการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ให้คณะกรรมการนั้นปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อนจนกว่าคณะกรรมการชุดใหม่จะเข้ารับหน้าที่ เว้นแต่กรณีที่รัฐมนตรีมีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 20
ให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งนั้นไปพลางก่อนจนกว่าคณะกรรมการใหม่จะเข้ารับหน้าที่ โดยให้ประธานคณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติปฏิบัติหน้าที่นายกในการปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อนระหว่างที่คณะกรรมการใหม่ยังไม่ได้เข้ารับหน้าที่คณะกรรมการที่พ้นจากตำแหน่ง หรือคณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติแล้วแต่กรณี มีอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 27 (1) เฉพาะกิจการที่มีลักษณะต่อเนื่องและเท่าที่จำเป็นเพื่อให้งานประจำของคณะกรรมการดำเนินไปได้โดยไม่เป็นที่เสียหายหรือหยุดชะงัก กับจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการใหม่ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่คณะกรรมการเดิมพ้นจากตำแหน่ง โดยจะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นเพื่อช่วยเหลือจัดการเลือกตั้งดังกล่าวด้วยก็ได้
มาตรา 23 เมื่อนายกหรือกรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้งพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระให้เลือกตั้งนายกหรือกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ตำแหน่งนายกหรือกรรมการนั้นว่างลง เว้นแต่วาระที่เหลืออยู่ไม่ถึงหนึ่งร้อยแปดสิบวัน
ให้ผู้ซึ่งเป็นนายกหรือกรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้งแทนนั้น อยู่ในตำแหน่งตามวาระของนายกหรือกรรมการซึ่งตนแทน
มาตรา 24 การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม และให้นายกหรือผู้รักษาการแทนเป็นประธานในที่ประชุม มติของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
มาตรา 25 ในกรณีที่นายกพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ หรือนายกไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ให้รองนายกเป็นผู้รักษาการแทน ถ้ารองนายกพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ หรือรองนายกไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้คณะกรรมการเลือกกรรมการคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาการแทน
มาตรา 26 นายกพิเศษหรือผู้แทนจะเข้าฟังการประชุมและชี้แจงแสดงความเห็นในที่ประชุมคณะกรรมการหรือจะส่งความเห็น เป็นหนังสือไปยังสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติในเรื่องใด ๆ ก็ได้แต่ไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน
มาตรา 27 ให้คณะกรรมการ(สภา1วิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ)มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
บริหารกิจการของสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในมาตรา 7
(2) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อทำกิจการหรือพิจารณาเรื่องต่าง ๆ อันอยู่ในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์ของสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ เว้นแต่กิจการซึ่งมีลักษณะหรือสภาพที่ไม่อาจมอบหมายให้กระทำการแทนกันได้
(3) ออกข้อบังคับสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ และข้อบังคับว่าด้วย
(ก) การเป็นสมาชิกและการขาดจากสมาชิกของสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
(ข) การเรียกเก็บและชำระค่าบำรุงและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
6
(ค) การแจ้งย้ายสถานที่ประกอบอาชีพของสมาชิกสภาแท็กซี่แห่งชาติ
(ง) การประชุมคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ
(จ) เรื่องอื่น ๆ อันอยู่ในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์ของสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ หรืออยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติตามกฎหมายอื่นรวมทั้งการแต่งตั้ง การบังคับบัญชา การรักษาวินัย และการออกจากตำแหน่งของพนักงานสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
มาตรา 28 ข้อบังคับนั้นเมื่อได้รับความเห็นชอบจากนายกพิเศษ และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้
มาตรา 29 ให้นายกเสนอร่างข้อบังคับต่อนายกพิเศษโดยไม่ชักช้า นายกพิเศษอาจยับยั้งร่างข้อบังคับนั้นได้พร้อมทั้งแสดงเหตุผลโดยแจ้งชัด ในกรณีที่มิได้มีการยับยั้งภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับร่างข้อบังคับที่นายกเสนอ ให้ถือว่านายกพิเศษให้ความเห็นชอบในร่างข้อบังคับนั้น
มาตรา 30 ถ้านายกพิเศษยับยั้งร่างข้อบังคับใด ให้คณะกรรมการประชุมพิจารณาอีกครั้งหนึ่งโดยพิจารณาเหตุผลของนายกพิเศษประกอบด้วย ในการประชุมนั้น ถ้ามีเสียงยืนยันถึงสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งคณะ ให้นายกเสนอร่างข้อบังคับนั้นต่อนายกพิเศษอีกครั้งหนึ่ง ถ้านายกพิเศษไม่ให้ความเห็นชอบในร่างข้อบังคับหรือไม่คืนร่างข้อบังคับนั้นมาภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับร่างข้อบังคับที่นายกเสนอ ให้นายกดำเนินการประกาศใช้ข้อบังคับนั้นในราชกิจจานุเบกษาต่อไปได้
มาตรา 31 สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยคนมีสิทธิเสนอขอให้คณะกรรมการพิจารณาแก้ไขข้อบังคับได้
มาตรา 32 ในกิจการที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้นายกมีอำนาจกระทำการแทนสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ แต่นายกอาจจะมอบหมายเป็นหนังสือให้กรรมการอื่นกระทำการแทนตนเฉพาะในกิจการใดก็ได้
หมวด 4
การขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตให้เป็น สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
มาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ซึ่งไม่ได้จดทะเบียนและรับใบอนุญาต หรือผู้ซึ่งขาดจากการเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ หรือต้องห้าม ทำการเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติโดยการรับจ้างขนคนโดยสาร จากสถานที่หนึ่งไปอีกสถานที่หนึ่ง ทั้งนี้ เว้นแต่จะได้กระทำในฐานะเป็นข้าราชการผู้ปฏิบัติการตามหน้าที่หรือเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ องค์การของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ ผู้ปฏิบัติการตามหน้าที่หรือมีอำนาจหน้าที่กระทำได้โดยบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติทางราชการ หรือกฎหมายอื่น
มาตรา 34 การขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาต การรับจดทะเบียนและออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการขอบอกเลิกจากการเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา 35 ผู้ขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
มีสัญชาติไทย
7
(2) อายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ในวันยื่นคำขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาต
(3) สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า จากสถาบันการศึกษาซึ่งสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ เห็นว่าสถาบันการศึกษานั้นมีมาตรฐานการศึกษาที่ควรเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติได้ และเป็นผู้ได้รับอนุญาตขับขี่รถยนต์สาธารณะ หรือเทียบเท่า
(4) ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดีและไม่เป็นผู้ได้กระทำการใดซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่น่าไว้วางใจในความซื่อสัตย์สุจริต
(5) ไม่อยู่ในระหว่างต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
(6) ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีที่คณะกรรมการเห็นว่าจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
(7) ไม่เป็นบุคคลผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ล้มละลาย
(8) ไม่เป็นโรคติดต่อซึ่งเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
(9) ไม่เป็นผู้มีกายพิการหรือจิตบกพร่องอันเป็นเหตุให้เป็นผู้หย่อนสมรรถภาพในการประกอบอาชีพผู้ให้บริการรถยนต์โดยสารสาธารณะ(ประเภทแท็กซี่ และรถตู้โดยสาร)
(10 ไม่เป็นผู้ต้องห้ามมิให้ยื่นคำขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตตามมาตรา 71
มาตรา 36 ภายใต้บังคับมาตรา 38 เมื่อคณะกรรมการได้รับคำขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตแล้ว เห็นว่าผู้ยื่นคำขอมีคุณสมบัติตามมาตรา 35 ให้คณะกรรมการพิจารณารับจดทะเบียนและออกใบอนุญาตให้ผู้ยื่นคำขอโดยเร็ว ในกรณีที่คณะกรรมการไม่รับจดทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ยื่นคำขอคณะกรรมการต้องแสดงเหตุผลของการไม่รับจดทะเบียนและออกใบอนุญาตดังกล่าวไว้โดยชัดแจ้งในกรณีเช่นนี้ผู้ยื่นคำขอมีสิทธิอุทธรณ์การไม่รับจดทะเบียนและออกใบอนุญาตของสภาวิชาชีพผู้ขับขี่แท็กซี่แห่งชาติ ต่อนายกพิเศษได้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับ คำวินิจฉัยของนายกพิเศษให้เป็นที่สุด
มาตรา 37 ให้ผู้ได้จดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ หรือผู้ได้รับการต่ออายุใบอนุญาตแล้วเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
มาตรา 38 ในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ เป็นผู้ที่ไม่เคยเป็นผู้ให้บริการรถยนต์สาธารณะ(ประเภทแท็กซี่ และรถตู้โดยสาร) คณะกรรมการจะรับจดทะเบียนและออกใบอนุญาตให้ก็ต่อเมื่อผู้ยื่นคำขอได้รับใบอนุญาตขับขี่รถยนต์สาธารณะ หรือเทียบเท่า และผ่านการฝึกอบรมจากสถาบันพัฒนาผู้ขับรถยนต์สาธารณะ
เมื่อเห็นเป็นการสมควร คณะกรรมการจะสั่งยกเว้นให้ผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตซึ่งมีคุณสมบัติตามที่กำหนดในข้อบังคับไม่ต้องเข้ารับการฝึกอบรมตามวรรคหนึ่งก็ได้
การฝึกอบรมตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามหลักสูตร วิธีการ และระยะเวลาที่กำหนดในข้อบังคับ
8
มาตรา 39 ใบอนุญาตให้มีอายุใช้ได้เป็นเวลาสองปีนับแต่วันออกใบอนุญาต เว้นแต่ใบอนุญาตประเภทต่อใบอนุญาตครั้งที่ 3 ของผู้ได้รับใบอนุญาตให้มีอายุ 5 ปี
สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติผู้ใดที่ใบอนุญาตมีอายุใช้ได้หนึ่งปี หากประสงค์จะทำการเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติต่อไป ให้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตภายในเก้าสิบวันก่อนวันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ การต่ออายุใบอนุญาตคราวหนึ่งให้ใช้ได้สองปีนับแต่วันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ
เมื่อต่ออายุใบอนุญาต ครบ 3 ครั้ง และการต่อใบอนุญาตครั้งที่ 4 เป็นต้นไปให้มีอายุทุก 5 ปี
ในกรณีที่คณะกรรมการไม่ต่ออายุใบอนุญาต ให้นำบทบัญญัติมาตรา 36 วรรคสองมาใช้บังคับโดยอนุโลม และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของนายกพิเศษให้เป็นที่สุด
มาตรา 40 สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ที่ขาดต่ออายุใบอนุญาตตามมาตรา 39 วรรคสอง มีสิทธิได้รับการต่ออายุใบอนุญาต หากได้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตภายในเวลาไม่เกินหกสิบวันนับแต่วันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุและยอมชำระเงินค่าธรรมเนียมเพิ่มร้อยละยี่สิบห้าของค่าธรรมเนียมสำหรับใบอนุญาตนั้น
มาตรา 41 ใบอนุญาตให้เป็นไปตามแบบที่กำหนดในข้อบังคับโดยอย่างน้อยต้องมีชื่อวัน เดือน ปี เกิด ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ภูมิลำเนาในการประกอบอาชีพ รูปถ่ายของผู้ถือใบอนุญาต เลขหมายใบอนุญาต วันออกใบอนุญาต และวันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ
ในกรณีที่ใบอนุญาตสูญหายหรือชำรุดเสียหายในสาระสำคัญ ให้ผู้รับใบอนุญาตยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบการสูญหายหรือชำรุดเสียหาย
มาตรา 42 สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ต้องมีที่จดทะเบียนภูมิลำเนาการประกอบอาชีพเพียงแห่งเดียวตามที่ระบุไว้ในคำขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาต หรือตามที่ได้แจ้งย้ายภูมิลำเนาต่อนายทะเบียนสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติในภายหลัง ให้นายทะเบียนสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติจดแจ้งทะเบียนตามวรรคหนึ่งไว้ในทะเบียนสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
มาตรา 43 เมื่อปรากฏต่อคณะกรรมการสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติผู้ใด เป็นผู้ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 35 ไม่ว่าจะขาดคุณสมบัติก่อนหรือหลังจากจดทะเบียนและรับใบอนุญาต ให้สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติผู้นั้นพ้นสภาพการเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ และให้คณะกรรมการจำหน่ายชื่อสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติผู้นั้นออกจากทะเบียนสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
บทบัญญัติในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติผู้ต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดหลังจากสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติผู้นั้นได้จดทะเบียนและรับใบอนุญาตแล้ว
เมื่อมีการจำหน่ายชื่อสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติออกจากทะเบียน สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติตามวรรคหนึ่ง ให้นำบทบัญญัติมาตรา 36 วรรคสองมาใช้บังคับโดยอนุโลมและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของนายกพิเศษให้เป็นที่สุด
ให้นำบทบัญญัติมาตรา 70 มาใช้บังคับแก่การจำหน่ายชื่อสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ออกจากทะเบียนสภาวิชาชีพทั้งสยามแห่งชาติตามวรรคหนึ่งโดยอนุโลม
9
มาตรา 44 สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติขาดจากการเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ เมื่อ
(1) ตาย
(2) ขอบอกเลิกจากการเป็น สมาชิกสภาวิชาชีพทักษิณแห่งชาติ
(3) ขาดต่อใบอนุญาตตามมาตรา 39 วรรคสอง
(4) ถูกจำหน่ายชื่อออกจากทะเบียนสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ตามมาตรา 43 หรือ
(5) ถูกลบชื่อออกจากทะเบียนสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติตามมาตรา 66 มาตรา 67 มาตรา 68 หรือมาตรา 69
หมวด 5
การประชุมใหญ่ของสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
มาตรา 45 การประชุมใหญ่ของสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ได้แก่การประชุมใหญ่สามัญประจำปี และการประชุมใหญ่วิสามัญ
มาตรา 46 คณะกรรมการต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีปีละหนึ่งครั้งภายในเดือนเมษายนของทุกปี
มาตรา 47 เมื่อมีเหตุอันสมควร คณะกรรมการจะจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อใดก็ได้
เมื่อสมาชิกมีจำนวนรวมกันไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยคนเข้าชื่อร้องขอเป็นหนังสือให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ คณะกรรมการต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ เว้นแต่คณะกรรมการเห็นว่าเรื่องที่ขอให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อพิจารณานั้นเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ หรือไม่มีเหตุอันสมควรที่จะได้รับการพิจารณาโดยที่ประชุมใหญ่ของสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
หนังสือร้องขอตามวรรคสองให้ระบุโดยชัดแจ้งว่าประสงค์ให้เรียกประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องใดและด้วยเหตุอันสมควรอย่างใด
มาตรา 48 ในกรณีที่คณะกรรมการไม่จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อคณะกรรมการได้รับคำร้องขอตามมาตรา 47 วรรคสอง คณะกรรมการต้องแจ้งเหตุผลของการไม่จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญดังกล่าวโดยชัดแจ้งไปยังสมาชิกคนใดคนหนึ่งซึ่งร่วมเข้าชื่อร้องขอภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ ในกรณีเช่นนี้สมาชิกผู้ร่วมเข้าชื่อร้องขอนั้นทั้งหมดมีสิทธิร่วมเข้าชื่อคัดค้านการไม่จัดการประชุมใหญ่วิสามัญนั้นต่อนายกพิเศษได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับ
คำวินิจฉัยของนายกพิเศษให้เป็นที่สุด และในกรณีที่นายกพิเศษมีคำวินิจฉัยเห็นชอบด้วยกับคำคัดค้านตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยจากนายกพิเศษ
มาตรา 49 ในการประชุมใหญ่ของสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ต้องมีสมาชิกเข้าร่วมประชุมด้วยตนเองไม่น้อยกว่าสามร้อยคนจึงจะเป็นองค์ประชุม ถ้าการประชุมคราวใดนายกไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองนายกเป็นประธานในที่ประชุม ถ้านายกและรองนายกไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้สมาชิกที่มาประชุมเลือกสมาชิกคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุมเฉพาะการประชุมคราวนั้น มติของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก สมาชิกคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
มาตรา 50 ภายใต้บังคับของบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้การประชุมใหญ่ของสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติให้เป็นไปตามที่กำหนดในข้อบังคับ
10
หมวด 6
จริยธรรมสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
มาตรา 51 สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ต้องประพฤติตนตามข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ การกำหนดจริยธรรมสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ให้สภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ตราเป็นข้อบังคับ
สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับที่สภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติตราขึ้นตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติผู้นั้นประพฤติผิดจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
มาตรา 52 โทษผิดจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ มี 5 สถาน คือ
(1) ภาคทัณฑ์
(2) ห้ามทำการเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ มีกำหนดสามเดือน
(3) ห้ามทำการเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ มีกำหนดหนึ่งปี
(4) ห้ามทำการเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ มีกำหนดสามปี หรือ
(5) ลบชื่อออกจากทะเบียนสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
ในกรณีประพฤติผิดจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติเล็กน้อยและเป็นความผิดครั้งแรก ถ้าผู้มีอำนาจสั่งลงโทษตามมาตรา 66 มาตรา 67 หรือมาตรา 68 แล้วแต่กรณี เห็นว่ามีเหตุอันควรงดโทษ จะงดโทษให้โดยว่ากล่าวตักเตือน หรือให้ทำทัณฑ์บนเป็นหนังสือไว้ก่อนก็ได้
มาตรา 53 ข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติต้องประกอบด้วยข้อกำหนดดังต่อไปนี้
(1) จริยธรรมของสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติต่อผู้โดยสารทั่วไป และนักเดินทาง
(2) จริยธรรมของสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติต่อผู้โดยสารของตนโดยตรง
(3) จริยธรรมของสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติต่อสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติด้วยกัน
(4) จริยธรรมเกี่ยวกับความประพฤติของสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
(5) การแต่งกายของสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติและ
(6) การปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ คณะกรรมการ หรือนายกพิเศษแล้วแต่กรณี
หมวด 7
คณะกรรมการ จริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
มาตรา 54 ให้มีคณะกรรมการ จริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ประกอบด้วยประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติอื่นอีกไม่น้อยกว่าเจ็ดคนตามจำนวนที่คณะกรรมการกำหนด
11
ให้คณะกรรมการแต่งตั้งกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติจากสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ซึ่งมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
(1) เป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติมาแล้วรวมกันไม่น้อยกว่าสิบปี
(2) ไม่เคยถูกลงโทษฐานประพฤติผิดจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ หรือถูกจำหน่ายชื่อออกจากทะเบียนสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
มาตรา 55 การแต่งตั้งกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติตามมาตรา 54 จะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบของนายกพิเศษ
มาตรา 56 ให้นายกแจ้งการแต่งตั้งกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติตามมาตรา 54 ต่อนายกพิเศษโดยไม่ชักช้า ในกรณีที่นายกพิเศษไม่แจ้งผลการพิจารณาให้ความเห็นชอบกลับมายังนายกภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการแต่งตั้ง ให้ถือว่านายกพิเศษให้ความเห็นชอบในการแต่งตั้งนั้น
ในกรณีที่นายกพิเศษแจ้งกลับมายังนายกภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่งว่าไม่ให้ความเห็นชอบในการแต่งตั้งคณะกรรมการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ หรือกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติคนใดคนหนึ่ง ให้คณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งนั้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง ถ้าคณะกรรมการลงมติยืนยันการแต่งตั้งเดิมด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งคณะ ให้นายกแจ้งการแต่งตั้งนั้นต่อนายกพิเศษ ถ้านายกพิเศษไม่ให้ความเห็นชอบหรือไม่แจ้งกลับมาภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากนายก ให้นายกดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ หรือกรรมการคนนั้นได้
มาตรา 57 ประธานกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่ควบคุมการพิจารณาคดีจริยธรรมสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติให้เป็นไปโดยรวดเร็วและเที่ยงธรรม และมีอำนาจหน้าที่อื่น ๆ ตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้หรือในข้อบังคับ
เมื่อประธานกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ให้รองประธานกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติปฏิบัติหน้าที่แทนประธานกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ถ้าประธานกรรมการและรองประธานกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ให้กรรมการที่ได้รับมอบหมายเป็นหนังสือจากประธานกรรมการปฏิบัติหน้าที่แทนประธานกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
มาตรา 58 กรรมการ จริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ มีวาระการดำรงตำแหน่งสามปีและอาจได้รับแต่งตั้งใหม่ได้ แต่จะดำรงตำแหน่งเกินกว่าสองวาระติดต่อกันมิได้ ถ้าตำแหน่งว่างลงก่อนถึงกำหนดวาระ ให้คณะกรรมการดำเนินการแต่งตั้งซ่อมเว้นแต่วาระการอยู่ในตำแหน่งของกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติจะเหลือไม่ถึงเก้าสิบวัน คณะกรรมการจะไม่ดำเนินการแต่งตั้งซ่อมก็ได้ และให้นำบทบัญญัติมาตรา 55 และมาตรา 56 มาใช้บังคับแก่การแต่งตั้งซ่อมโดยอนุโลม
กรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติซึ่งได้รับแต่งตั้งซ่อมให้อยู่ในตำแหน่งได้เพียงวาระของผู้ที่ตนแทน
12
มาตรา 59 ในกรณีที่คณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะและยังไม่มีการแต่งตั้งคณะ กรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติใหม่ ให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาตินั้นปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อน จนกว่าคณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติคณะใหม่จะเข้ารับหน้าที่
ให้คณะกรรมการแต่งตั้งกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติใหม่ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่คณะกรรมการ จริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติคณะเก่าพ้นจากตำแหน่ง
มาตรา 60 กรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ
(1) ครบวาระ
(2) ตาย
(3) ลาออก
(4) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 54 วรรคสอง หรือ
(5) ขาดจากการเป็น สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ตามมาตรา 44
มาตรา 61 ในการปฏิบัติหน้าที่ให้กรรมการ จริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และให้นำบทบัญญัติว่าด้วยการคัดค้านผู้พิพากษาตามกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาความแพ่ง มาใช้บังคับแก่กรรมการ จริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติด้วยโดยอนุโลม
มาตรา 62 คณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติมีอำนาจแต่งตั้งสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติคนหนึ่งหรือหลายคนเป็นอนุกรรมการหรือคณะทำงาน ให้กระทำกิจการใดกิจการหนึ่งในขอบอำนาจของคณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ เว้นแต่การวินิจฉัยชี้ขาดคดีจริยธรรมสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
มาตรา 63 ในการพิจารณาคดีจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ต้องมีกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ มาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม
ภายใต้บังคับมาตรา 64 วรรคสาม และมาตรา 69 วรรคสาม การประชุมปรึกษา หรือการวินิจฉัยชี้ขาดคดีจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ของคณะกรรมการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติให้ถือตามเสียงข้างมาก แต่กรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติฝ่ายข้างน้อยมีสิทธิทำความเห็นแย้งได้
มาตรา 64 บุคคลผู้ได้รับความเสียหายหรือสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติมีสิทธิกล่าวหาสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติว่าประพฤติผิด จริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ โดยทำคำกล่าวหาเป็นหนังสือยื่นต่อประธานกรรมการ จริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
สิทธิกล่าวหา สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ตามวรรคหนึ่งเป็นอันสิ้นสุดลง เมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่ผู้มีสิทธิกล่าวหารู้เรื่องการประพฤติผิดจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ และเมื่อรู้ตัวผู้ประพฤติผิดแต่ต้องไม่เกินสามปีนับแต่วันประพฤติผิด จริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
13
การถอนคำกล่าวหาที่ได้ยื่นตามวรรคหนึ่ง จะเป็นเหตุให้คดี จริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติระงับก็ต่อเมื่อคณะกรรมการ จริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการ จริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติที่มาประชุม อนุญาตให้ผู้กล่าวหาถอนคำกล่าวหาได้
มาตรา 65 เมื่อได้รับคำกล่าวหาตามมาตรา 64 วรรคหนึ่ง หรือเมื่อได้รับแจ้งจาก กรมการขนส่งทางบก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือพนักงานสอบสวน หรือเมื่อปรากฏแก่คณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติว่ามีพฤติการณ์อันสมควรให้มีการสอบสวน จริยธรรมสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติผู้ใด ให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติแต่งตั้งสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติไม่น้อยกว่าสามคนเป็นคณะกรรมการสอบสวน ทำการสอบสวน เพื่อการนี้ให้คณะกรรมการสอบสวนมีอำนาจเรียกบุคคลใด ๆ มาให้ถ้อยคำ และมีหนังสือแจ้งให้บุคคลใด ๆ ส่งหรือจัดการส่งเอกสารหรือวัตถุเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนได้
เมื่อคณะกรรมการสอบสวนทำการสอบสวนเสร็จแล้ว ให้เสนอเรื่องต่อประธานกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติเพื่อพิจารณาสั่งการตามมาตรา 66 ต่อไป
มาตรา 66 ในการพิจารณาคดีจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ คณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติมีอำนาจสั่งจำหน่ายคดี สั่งยกคำกล่าวหา หรือสั่งลงโทษหรือดำเนินการกับ สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติที่ถูกกล่าวหาอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา 52
มาตรา 67 ในกรณีที่คณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติมีคำสั่งตามมาตรา 66 ให้ประธานกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซีแห่งชาติส่งสำนวนคดี จริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาตินั้นไปยังนายกภายในสามสิบวันนับแต่วันมีคำสั่ง ในกรณีเช่นนี้ให้คณะกรรมการทำการพิจารณาและจะสั่งยืน แก้ หรือกลับคำสั่งของคณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ รวมทั้งสั่งลงโทษ หรือดำเนินการกับ สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติที่ถูกกล่าวหาอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา 52 ตามที่เห็นสมควรได้ และก่อนที่จะมีคำสั่งดังกล่าวคณะกรรมการอาจสั่งให้คณะกรรมการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติทำการสอบสวนเพิ่มเติมก็ได้
เมื่อนายกได้รับสำนวนคดีจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติตามวรรคหนึ่งแล้ว หากคณะกรรมการมิได้วินิจฉัยและแจ้งคำวินิจฉัยมายังประธานกรรมการ จริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติภายในหกสิบวันนับแต่วันได้รับสำนวน ให้ถือว่าคณะกรรมการมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของคณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ เว้นแต่กรณีที่มีการสอบสวนเพิ่มเติม ระยะเวลาหกสิบวันให้นับตั้งแต่วันที่ได้รับสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติม
คำสั่งของคณะกรรมการที่ยืนตามให้จำหน่ายคดี หรือยกคำกล่าวหาตามวรรคหนึ่ง หรือวรรคสองให้เป็นที่สุด
มาตรา 68 สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติซึ่งถูกสั่งลงโทษหรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา 52 อาจอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อนายกพิเศษได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับภายในสามสิบวันนับแต่วันได้รับแจ้งคำสั่ง ในกรณีเช่นนี้ให้นายกพิเศษทำการพิจารณาและมีคำสั่ง และให้นำบทบัญญัติในมาตรา 67 วรรคหนึ่งและวรรคสอง มาใช้บังคับแก่การพิจารณาและการมีคำสั่งของนายกพิเศษโดยอนุโลม
คำสั่งของนายกพิเศษให้เป็นที่สุด
14
มาตรา 69 เมื่อสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติผู้ใดต้องรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุด เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษให้ศาลชั้นต้นที่อ่านคำพิพากษาถึงที่สุดนั้น มีหนังสือแจ้งการต้องโทษจำคุกของสมาชิกผู้นั้นให้ประธานกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติทราบ เมื่อได้รับหนังสือแจ้งตามวรรคหนึ่งแล้วให้ประธานกรรมการ จริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ เสนอเรื่องให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ สั่งลบชื่อสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติผู้นั้นออกจากทะเบียนสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ แต่คณะกรรมการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติจะไม่สั่งลบชื่อสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติผู้นั้นออกจากทะเบียนสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติก็ได้ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำความผิดของสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติผู้นั้นไม่เป็นการกระทำที่ชั่วร้ายไม่เป็นการกระทำที่แสดงให้เห็นว่า สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติผู้นั้นไม่น่าไว้วางใจในความซื่อสัตย์สุจริต และไม่เป็นการกระทำที่เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
คำสั่งไม่ลบชื่อสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติผู้กระทำผิดออกจากทะเบียนสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติตามวรรคสองต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมดของคณะกรรมการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
คำสั่งลบชื่อหรือไม่ลบชื่อสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติออกจากทะเบียนตามวรรคสองให้ประธานกรรมการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติแจ้งต่อนายกภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีคำสั่ง และให้คณะกรรมการทำการพิจารณา และจะสั่งยืน หรือกลับคำสั่งของคณะกรรมการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติก็ได้
มาตรา 70 เมื่อมีคำสั่งอันถึงที่สุดลงโทษ สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ที่ประพฤติผิดจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ หรือมีคำสั่งลบชื่อสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติออกจากทะเบียนสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ให้นายทะเบียนสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติจดแจ้งคำสั่งนั้นไว้ในทะเบียนสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ และแจ้งคำสั่งนั้นให้สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติผู้ถูกกล่าวหาและผู้กล่าวหาทราบ
ในกรณีที่คำสั่งตามวรรคหนึ่งเป็นคำสั่งห้ามทำการเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ หรือคำสั่งลบชื่อออกจากทะเบียนสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ให้นายทะเบียนสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติแจ้งคำสั่งนั้นให้ขนส่งจังหวัดทั่วราชอาณาจักร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาทราบด้วย
มาตรา 71 บุคคลที่ถูกลบชื่อออกจากทะเบียนสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติจะขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตอีกมิได้ เว้นแต่เวลาได้ผ่านพ้นไปแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีนับแต่วันถูกลบชื่อ
มาตรา 72 ภายใต้บังคับของบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้การประชุมปรึกษา การสอบสวน การพิจารณา และการวินิจฉัยชี้ขาดคดีจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับ
หมวด 8
กองทุนสวัสดิการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
มาตรา 73 ให้มีกองทุนสวัสดิการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ประกอบด้วย
(1) เงินที่สภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ จัดสรรให้เป็นประจำปี
(2) ทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้ และ
(3) ดอกผลของ (1) และ (2)
15
สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติที่ได้รับความเดือดร้อนหรือทายาทของ สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ที่ถึงแก่ความตายซึ่งได้รับความเดือดร้อน มีสิทธิขอรับการสงเคราะห์จากเงินกองทุนสวัสดิการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ โดยยื่นคำขอต่อสวัสดิการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ
การสงเคราะห์ การเก็บรักษา และการจ่ายเงินสวัสดิการสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับ
หมวด 9
การช่วยเหลือประชาชนทางการให้บริการรถยนต์สาธารณะ
มาตรา 74 ให้มีคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางการให้บริการรถยนต์สาธารณะประกอบด้วยนายก รองนายก เลขาธิการ และบุคคลอื่นอีกไม่เกินสิบคนที่คณะกรรมการแต่งตั้งจากผู้ที่เป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบปี
ให้นายกเป็นประธานกรรมการ รองนายกเป็นรองประธานกรรมการและเลขาธิการเป็นเลขานุการ
มาตรา 75 ให้นำบทบัญญัติมาตรา 58 และมาตรา 60 มาใช้บังคับแก่กรรมการช่วยเหลือประชาชนทางการให้บริการรถยนต์สาธารณะที่คณะกรรมการแต่งตั้งตามมาตรา 74 วรรคหนึ่ง โดยอนุโลม
มาตรา 76 คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางการให้บริการรถยนต์สาธารณะมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) ให้การช่วยเหลือประชาชนทางการให้บริการรถยนต์สาธารณะตามมาตรา 79
(2) เก็บรักษาและจ่ายเงินกองทุนช่วยเหลือประชาชนทางการให้บริการรถยนต์สาธารณะตามมาตรา 77
(3) อำนาจหน้าที่อื่นตามที่กำหนดในข้อบังคับ
มาตรา 77 จัดสรรเงินให้มูลนิธิคุ้มครองผู้ใช้บริการรถยนต์สาธารณะ เพื่อช่วยเหลือประชาชนทางการให้บริการรถยนต์สาธารณะประกอบด้วย
(1) เงินที่สภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติจัดสรรให้เป็นประจำปีเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละสิบห้าของเงินรายได้ของสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติตามมาตรา 9 (1) ของปีที่ล่วงมา
(2) เงินอุดหนุนจากรัฐบาล
(3) ทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้ และ
(4) ดอกผลของ (1) (2) และ (3)
มาตรา 78 ประชาชนผู้มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือทางการให้บริการรถยนต์สาธารณะต้องเป็นผู้ยากไร้
มาตรา 79 การช่วยเหลือประชาชนทางการให้บริการรถยนต์สาธารณะได้แก่
(1) การให้คำปรึกษา หรือแนะนำเกี่ยวกับการบริการ ประชาชนเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังที่หมายตามที่ตกลงไว้
(2) การจัดหาสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติมาให้บริการประชาชนยากไร้ที่เดือดร้อน
16
มาตรา 80 เมื่อมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางการให้บริการรถยนต์สาธารณะต้องมีหนังสือแจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงเงินกองทุนช่วยเหลือประชาชนทางการให้บริการรถยนต์สาธารณะที่ยังเหลืออยู่ งบดุลและรายรับรายจ่ายของการช่วยเหลือประชาชนทางการให้บริการรถยนต์สาธารณะในรอบปี
ที่ผ่านมาซึ่งมีคำรับรองของผู้สอบบัญชีสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ รวมทั้งผลงานและอุปสรรคข้อขัดข้องการช่วยเหลือผู้ยากไร้ทางการให้บริการรถยนต์สาธารณะในรอบปีที่ผ่านมาให้ประธานกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางการให้บริการรถยนต์สาธารณะส่งสำเนาหนังสือแจ้งให้ที่ประชุมทราบตามวรรคหนึ่ง ไปยังนายกพิเศษ เพื่อทราบด้วย
มาตรา 81 ภายใต้บังคับของบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ การประชุมของคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางการให้บริการรถยนต์สาธารณะ การรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินกองทุนช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย การดำเนินการช่วยเหลือประชาชนทางการให้บริการรถยนต์สาธารณะให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับ
หมวด 10
บทกำหนดโทษ
มาตรา 82 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 33 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 83 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามหนังสือเรียกตามมาตรา 65 วรรคหนึ่ง ซึ่งให้มาเพื่อให้ถ้อยคำหรือให้ส่งหรือจัดการส่งเอกสารหรือวัตถุใดหรือมาตามหนังสือเรียกแล้วแต่ไม่ยอมให้ถ้อยคำโดยปราศจากเหตุอันสมควร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 83 ห้ามมิให้ผู้มีอิทธิพลกระทำการเป็นผู้บริการรับเรียกรถ ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 84 ห้ามมิให้ผู้มีอิทธิพลกระทำการเป็นผู้ประกอบการอู่รถ ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
บทเฉพาะกาล
มาตรา 85 ให้ผู้ที่ได้จดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติอยู่แล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับเป็นผู้ที่ได้จดทะเบียนและรับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ และให้ถือว่าใบอนุญาตเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาตินั้น ๆ เป็นใบอนุญาตที่ได้ออกให้ตามพระราชบัญญัตินี้ แต่ให้มีอายุใช้ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม ของปีที่พระราช บัญญัตินี้ใช้บังคับ
ให้ผู้ซึ่งขาดคุณสมบัติตามมาตรา 35 (3) ที่ได้จดทะเบียนและรับใบอนุญาตหรือเคยจดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็น สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติอยู่แล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ มีสิทธิขอต่ออายุใบอนุญาตตามมาตรา 39 และมาตรา 40 หรือขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตได้และให้ถือว่าผู้นั้นเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติตามพระราชบัญญัตินี้
ให้นำบทบัญญัติตามมาตรา 35 (1) (2) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) และ (11) มาใช้บังคับแก่สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ตามวรรคสองด้วย
17
มาตรา 86 ให้ กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ส่งมอบทะเบียนผู้ให้บริการรถยนต์สาธารณะแท็กซี่และรถตู้โดยสาร และบรรดาเอกสารที่เกี่ยวกับการจดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ การต่ออายุใบอนุญาตเป็น สมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ และการควบคุม จริยธรรมสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ เว้นแต่สำนวนการร้องเรียนการให้บริการ และคดีจริยธรรมสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติที่ยังค้างพิจารณาอยู่ให้แก่สภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ในระหว่างที่คณะกรรมการยังมิได้ออกข้อบังคับว่าด้วย จริยธรรมสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ตามวรรคหนึ่งให้ถือว่าบทบัญญัติตามพระราชบัญญัติขนส่งทางบก พ.ศ.2522 และการแต่งกายของ
พนักงานขับรถแท็กซี่ และรถตู้โดยสารที่ใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เป็นเสมือนข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติตามพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะมีข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติตามวรรคหนึ่ง
มาตรา 87 ให้คณะกรรมการออกข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติตามมาตรา 53 ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา 88 ให้มีคณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ตามมาตรา 54 ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่มีข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ตามมาตรา 86 วรรคหนึ่ง
ให้บรรดาคดี หรือการร้องเรียนจริยธรรมการให้บริการของสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ที่ค้างพิจารณาอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และคดีการร้องเรียนการให้บริการ เกี่ยวกับจริยธรรมของสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติที่เกิดขึ้นในขณะที่ยังไม่มีคณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ตามวรรคหนึ่งอยู่ในบังคับของบทบัญญัติแห่ง พระราชบัญญัติขนส่งทางบกพ.ศ 2522 ที่ใช้อยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับจนกว่าจะเสร็จการ
เพื่อประโยชน์แห่งบทบัญญัติวรรคสอง ให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ และบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับคดีจริยธรรมสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ อยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หรือที่จะได้รับการแต่งตั้งเพื่อการปฏิบัติตามบทบัญญัติวรรคสอง มีอำนาจกระทำการตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ที่ใช้อยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับต่อไปจนกว่าจะเสร็จการ
มาตรา 89 ในวาระเริ่มแรกให้รัฐมนตรีแต่งตั้งสมาชิกสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ ซึ่งมีคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการตามมาตรา 17 วรรคสอง จำนวนสิบห้าคน ซึ่งในจำนวนนี้ต้องเป็นกรรมการบริหารของ สภาพวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะไทยสมาคมไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม เป็นคณะกรรมการตามมาตรา 14 ทั้งนี้ ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา 90 ให้คณะกรรมการซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งตามมาตรา 88 เลือกและแต่งตั้งกรรมการด้วยกันเองคนหนึ่งเป็นนายกตามมาตรา 14 ทั้งนี้ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่รัฐมนตรีแต่งตั้ง
ให้คณะกรรมการตามวรรคหนึ่งจัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 14 ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง และดำเนินการออกระเบียบเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลภายใน 1 ปีนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งตามมาตรา 14
ร่างพระราชบัญัติสภาวิชาชีพแท็กซี่แห่งชาติ เสนอโดยสมาพันธ์ผู้ขับรถยนต์สาธารณะแห่งประเทศไทย และสภาวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะไทยสมาคม สนับสนุนโดยมูลนิธิคุ้มครองผู้ใช้บริการรถยนต์สาธารณะ
18
เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ
โดยที่ปัจจุบันการประกอบอาชีพผู้ให้บริการรถยนต์สาธารณะแท็กซี่และรถตู้โดยสาร ได้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว รูปแบบการให้บริการมีความหลากหลาย มีเงินหมุนเวียนในธุรกิจนี้หลายหมื่นล้านบาทในแต่ละปี และผู้ประกอบอาชีพให้บริการรถยนต์สาธารณะแท็กซี่และรถตู้โดยสารได้เพิ่มจำนวนขึ้นเป็นอย่างมาก การให้บริการนักเดินทางจึงมีลักษณะเป็นวิชาชีพลักษณะเฉพาะประเภทหนึ่งซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อระบบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศและต่อผู้โดยสารและนักเดินทาง ซึ่งเป็นผู้บริโภค องค์กรกำกับดูแลการให้บริการรถยนต์สาธารณะแท็กซี่และรถตู้โดยสาร จึงต้องมีความคล่องตัวเพื่อให้ทันต่อพัฒนาการของธุรกิจนี้ และต้องมีอิสระในการดำเนินงานเพื่อให้การกำกับดูแลการให้บริการรถยนต์สาธารณะแท็กซี่และรถตู้โดยสารเป็นไปตามหลักวิชาการ วิชาชีพด้านการให้บริการ แต่การกำกับดูแลการให้บริการรถยนต์สาธารณะแท็กซี่และรถตู้โดยสาร ในปัจจุบันเป็นอำนาจหน้าที่ของ กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ซึ่งไม่สอดคล้องกับลักษณะของการให้บริการที่จำเป็นต้องมีทักษะเฉพาะที่ควรอยู่ในความรับผิดชอบของ องค์กรอิสระที่มีลักษณะเฉพาะ นอกจากนี้กรมการขนส่งทางบกซึ่งดูแลในด้านของตัวยานพาหนะที่ใช้ประกอบอาชีพอยู่แล้ว มีฐานะเป็นส่วนราชการจึงไม่มีความคล่องตัวและขาดความเป็นอิสระในการกำกับดูแลการ ให้บริการรถยนต์สาธารณะ ประเภทแท็กซี่และรถตู้โดยสาร ดังนั้นเพื่อให้การกำกับดูแลการประกอบ อาชีพการให้บริการ และการคุ้มครองสิทธิของ ผู้โดยสารและนักเดินทาง เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรณีจึงสมควรให้มีคณะกรรมการสภาวิชาชีพแห่งชาติ ที่มีความเป็นอิสระและคล่องตัวในการกำกับดูแลการให้บริการผู้โดยสารและนักเดินทางขึ้นเป็นการเฉพาะ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้